December 26, 2009

ระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกา


การศึกษาของอเมริกาเป็นระบบที่เปิดกว้าง ในแง่ที่มีความหลากหลายในสาขาวิชาให้เลือกในเกือบทุกอาชีพ และมีความยืดหยุ่นสูง จุดเด่นของมหาวิทยาลัยในอเมริกา วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย ได้อย่างอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการศึกษาของอเมริกา ยังเปิดโอกาสในนักเรียนสามารถย้ายโอนการเรียนจากสถาบันหนึ่งไปยังอีกสถาบัน หนึ่งได้ การเรียนจบในสองปีเรียนแรกของปริญญาจากสถาบันหนึ่งแล้วโอนย้ายไปอีกสถาบันหนึ่งเป็นเรื่องปรกติ ในระบบการศึกษาของอเมริกา และด้วยคุณลักษณะเหล่านี้ ทำให้อเมริกา เป็นประเทศที่ได้รับความสนใจในการเข้าศึกษาจากนักเรียนนักศึกษาทั่วโลก การศึกษาของอเมริกาเริ่มต้นด้วยการเรียน 12 ปีในระดับประถมศึกษา (Primary School) และมัธยมศึกษา (Secondary School) โดยชาวอเมริกันทุกคนต้องจบการศึกษาในระดับนี้ การศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ระดับอนุปริญญา หรือ ประกาศนียบัตร เป็นการศึกษาบังคับพื้นฐาน สำหรับการเข้าศึกษาต่อในระดับวิทยาลัย ระดับมหาวิทยาลัย หรือสายอาชีพต่าง ๆ

..........................................................................................................................

ระดับก่อนปฐมวัย

การศึกษาในระดับก่อนปฐมวัยในอเมริกา ประกอบไปด้วย:
  • Pre-Primary
  • Child/Day Care
  • Preschool Program
  • Nursery School
  • Kindergarten

โดยมีระยะเวลาในการเรียน 2 ปี และอายุที่เรียนคือ 4-6 ขวบ ใบประกาศนียบัตรสำหรับการเรียนในขั้นนี้ อาจจำเป็นต้องมีเพื่อใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับประถมศึกษา

โดยทั่วไป ก่อนที่จะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา ผู้ปกครองมักจะส่งเด็ก ๆ เข้าเรียน Nursery School หรือ Preschool ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับดูแลเด็กเล็ก ๆ มากกว่าจะเป็นโรงเรียนที่เน้นเรื่องการศึกษาวิชาการ โรงเรียน Preschool ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจาก National Association for the Education of Young Child หรือ NAEYC

..........................................................................................................................

ระดับปฐมศึกษา (Primary School)

เด็กอเมริกันจะเข้าโรงเรียนเมื่อมีอายุ 5 ขวบ โดยในปีแรกที่เข้าเรียนเรียกว่า Kindergarten เด็กชาวอเมริกันทุกคนต้องเข้ารับการศึกษาเล่าเรียนตามระบบการศึกษา ของอเมริกา โดยในปีที่สองในโรงเรียนจะถูกพิจารณาเป็นปีแรกของการเรียนในระดับประถมศึกษา หรือ เกรด 1 ในอเมริกา “เกรด” มีความหมาย 2 ประการ คือ
(1) คะแนนที่ทำได้ในการสอบหรือในคอร์สที่เรียน
(2) ปีที่ศึกษาเล่าเรียนในระดับประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษา ที่อายุ 5-6 ขวบ

เด็กอเมริกันจะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาโดยเริ่มเรียนที่ เกรด 1 ของ 12 เกรด โดยทั่วไปโรงเรียนในอเมริกา จะเริ่มเรียนในเดือนกันยายน ไปจนถึง มิถุนายนของปีถัดไป โดยรวมการเรียน Summer ไว้ด้วย ชั้นประถมศึกษาในอเมริกามีหลายแบบแตกต่างกันออกไป แต่การเรียนในระดับประถมศึกษาภาคบังคับ จะใช้เวลาเรียน 5-6 ปี โดยเริ่มจากเกรด 1 จนถึง เกรด 6

..........................................................................................................................

ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School)
การศึกษาในระดับมัธยมจะเป็นขั้นต่อไป หลังจากเรียนจบในชั้นประถมแล้ว โดยใช้เวลา 6 หรือ 7 ปี ประกอบไปด้วยโปรแกรม 2 ปี หรือ 3 ปี และตามด้วยโปรแกรม 4 ปี โรงเรียนในระดับนี้รู้จักกันดีในนาม Middle School หรือ Junior High School และ High หรือ Senior High School

เมื่อจบการศึกษาในขั้นนี้แล้วจะถูกเรียกกันว่า “เกรด 12” นักเรียนเรียนต่างประเทศจำเป็นต้องทราบระบบการศึกษาของประเทศตนเองชั้นไหน ถึงเทียบเท่ากับ เกรด 12 ในอเมริกา และเพื่อความสะดวก ประเทศอเมริกาได้จัดทำ list ของระบบการศึกษาในโรงเรียนต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับการศึกษาระบบ เกรด 12 ในอเมริกา

..........................................................................................................................

ระดับสูงกว่ามัธยมศึกษา (Higher Education)
การศึกษาในระดับสูงจะเริ่มหลังจาก 12 ปีของการศึกษาก่อนหน้านี้ โดยเริ่มจากระดับปริญญาตรี (Undergraduate) ซึงประกอบด้วย การศึกษา 2 ปีที่เรียกว่า associate degree หรืออนุปริญญส หรือการศึกษา 4 ปี ที่เรียกว่า bachelors degree ตามด้วย 2 ปี ในการศึกษาระดับสูงเฉพาะทาง ที่เรียกว่า Master Degree สำหรับการศึกษาในระดับปริญญาเอกหรือ PhD จะเป็นหลักสูตร 3-6 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่เลือกเรียน ความสามารถของผู้เรียน และวิทยานิพนธ์ที่นักศึกษาเลือกทำ

Transfers: ระบบการศึกษาของอเมริกายินยอมให้นักศึกษา สามารถย้ายมหาวิทยาลัยได้ โดยยังคงศึกษาได้จนจบการศึกษาสำหรับในระยะเวลาที่เหมาะสม นักศึกษาสามารถสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ก่อนจบการศึกษา และหน่วยกิจที่ได้รับจากสถานศึกษาแห่งเดิมก็จะถูกนำมาใช้สำหรับจบการศึกษาใน สถานศึกษาแห่งใหม่ได้

Academic year: ปีการศึกษาของอเมริกาจะเริ่มในเดือนสิงหาคม หรือกันยายนของทุกปี และจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายนของปีถัดไป ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับนักศึกษานานาชาติ ที่จะเดินทางไปอเมริกา ควรเป็นช่วง autumn นอกจากนี้หลาย ๆ หลักสูตรถูกออกแบบให้สอดคล้องกับการเรียนการศึกษาของนักศึกษาเป็นลำดับ ซึ่งสามารถเริ่มการศึกษาได้ในช่วง autumn จนสิ้นสุดปี โดยทั่วไปหลักสูตรการศึกษาของสถานศึกษาส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย 2 เทอม บางแห่งอาจจะเป็น 3 เทอมที่เรียกว่า “trimester” และที่เหลือก็จะแบ่งออกเป็น 4 quarter หรือ 4 เทอม โดยรวมการศึกษาภาคฤดูร้อน (summer session) เข้าไปเป็นทางเลือกด้วย

ในอเมริกาอายุของเด็กที่เริ่มเข้าเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน แตกต่างกันออกไปแต่ละรัฐ ระหว่าง 5 ถึง 7 ขวบ แต่อายุ 6 ขวบเป็นอายุของเด็กส่วนใหญ่ที่เริ่มเข้าเรียน และจะจบการศึกษาภาคบังคับเมื่ออายุ 16 ถึง 18 ปี แต่ส่วนมากคือเมื่ออายุ 16 ปี ที่อเมริกาไม่มีหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ กฏหมายและนโยบายการศึกษาถูกกำหนดและบังคับใช้ โดยแต่ละรัฐอิสระจากกันทั้ง 50 รัฐ ครอบคลุม 14,000 โรงเรียนในแต่ละเขต ทุกรัฐและทุกโรงเรียนในเขตของรัฐ กำหนดให้การสำเร็จการศึกษาของมัธยมศึกษาคือเมื่อจบเกรด 12 และวุฒิที่ได้ที่รู้จักกันดีคือ High School Diploma หรือ อนุปริญญา

..........................................................................................................................

ระดับปริญญาตรี (Undergraduate or College Years)

นักศึกษาอเมริกันโดยทั่วไป มักเลือกเรียนในวิชาต่างๆ ที่ค่อนข้างมีความหลากหลายในช่วงระดับปริญญาตรี นักศึกษาส่วนมากจะยังไม่เน้นในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ จนกระทั่งเข้าศึกษาต่อในระดับสูงกว่าปริญญาตรี การศึกษาในช่วง 2 ปีแรกของหลักสูตร นักศึกษาจะลงทะเบียนเรียนสาขาวิชาต่างๆ ที่เป็นวิชาพื้นฐาน เมื่อเข้าชั้นปีที่ 3 จึงเลือก “major” ของสาขาวิชาที่ต้องการ และต้องลงทะเบียนเรียนในวิชาต่างๆ ภายใต้สาขาวิชานี้ตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้ สำหรับสถาบันการศึกษาบางแห่ง นักศึกษาอาจต้องเลือก “minor” ด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเลือกวิชาเลือก (เพิ่มเติม) ในสาขาวิชาอื่นๆ ได้
.........................................................................................................................
ระดับสูงกว่าปริญญาตรี (Postgraduate or Graduate Education)
  • ปริญญาโท-Master's Degree
การศึกษาในระดับนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนเฉพาะเจาะจงในสาขาวิชาต่างๆ เช่น Library Science, Engineering, Social Work หรือ MBA โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาศึกษา 2 ปี หลักสูตรปริญญาโทบางหลักสูตรอาจมีระยะเวลาเพียง 1 ปี เช่น หลักสูตรด้าน Journalism หรือ LLM การศึกษาในระดับนี้จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเข้าชั้นเรียน และต้องเตรียมเขียนงานวิจัย หรือ "Master's Thesis" ด้วย
..........................................................................................................................
  • ปริญญาเอก-Doctorate (Ph.D.)
สำหรับบางสถาบัน นักศึกษาอาจเตรียมตัวเพื่อการศึกษาในระดับปริญญาเอกได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเข้าเริ่มต้นการศึกษาในระดับปริญญาโทก่อน ระยะเวลาของหลักสูตร คือ 3 ปีหรือมากกว่า แต่สำหรับนักศึกษาต่างชาติ อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาถึง 5-6 ปี สำหรับการศึกษาในช่วง 2 ปีแรก นักศึกษาส่วนใหญ่จะลงทะเบียนเพื่อการเข้าชั้นเรียนและร่วมสัมมนาต่างๆ หลังจากนั้น จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 ปีในการทำงานวิจัยของตนเอง และเขียนวิทยานิพนธ์ ซึ่งไม่เคยมีการทำมาก่อน นักศึกษาจะต้องเข้าชั้นเรียนอย่างสม่ำเสมอ สอบผ่านตามระดับคะแนนที่กำหนด และผ่านการสอบปากเปล่าในหัวข้อเดียวกับงานวิทยานิพนธ์จึงจะสำเร็จการศึกษา
..........................................................................................................................

No comments:

Post a Comment