December 26, 2009

ระบบการศึกษาในออสเตรเลีย


การศึกษาภาคบังคับของประเทศออสเตรเลีย คือปีที่ 1-10 หรือ Year 1-10 (อายุ 6-15 ปี) สำหรับนักศึกษาต่างชาติ สามารถสมัครเพื่อเข้าศึกษากับสถาบันในประเทศออสเตรเลียได้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับปริญญาเอก รูปแบบระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียกำหนดโดยรัฐบาลกลาง และจัดแบ่งออกเป็น 6 ส่วน คือ

1. หลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
(Primary and Secondary Education)


การศึกษาระดับประถมศึกษา (Year 1-6) และมัธยมศึกษา (Year 7-12) อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละรัฐ มีทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน และมีทั้งแบบโรงเรียนชายล้วน หญิงล้วน สหศึกษา และมีทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับและแบบประจำ โดยทั่วไป โรงเรียนสามารถรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนได้ ตั้งแต่ Year 7 เป็นต้นไป แต่สำหรับระดับประถมจะพิจารณาเป็นกรณีไป สำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งผู้ปกครองหรือ Guardian เพื่อคอยดูแลด้วย
..........................................................................................................................

2. หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ELICOS)

ประเทศออสเตรเลียมีสถาบันสอนภาษาที่จดทะเบียนและได้รับการรับรองให้เลือกมากมายทั่วประเทศ ตั้งแต่สถาบันสอนภาษาเอกชนที่มีชั้นเรียนขนาดเล็ก จนถึงศูนย์ภาษาขนาดใหญ่ในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย TAFE หลักสูตรต่างๆ ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ตามความสนใจและความต้องการของนักศึกษาต่างชาติ โดยที่สถาบันทั้งของภาคเอกชนและภาครัฐบาลจะต้องดำเนินงานตามมาตรฐานของการรับรองระดับประเทศ

หลักสูตรภาษาอังกฤษที่เปิดสอนในประเทศออสเตรเลียมีชื่อเรียกย่อๆ ว่า ELICOS ซึ่งย่อมาจาก English Language Intensive Courses for Overseas Students ซึ่งหมายถึงหลักสูตรภาษาอังกฤษแบบเร่งรัดที่เปิดสอนสำหรับนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ การจัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษโดยทั่วไป จะจัดแยกไว้เป็นระดับต่างๆ คือ Beginner, Elementary, Lower-Intermediate, Intermediate, Upper-Intermediate และ Advanced สถาบันสอนภาษาในประเทศออสเตรเลีย จะถูกกำหนดโดย NEAS ให้มีรูปแบบการเรียนแบบเต็มเวลา ที่มีการเรียนการสอนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 25 ชั่วโมง เป็นการเรียนแบบเข้าชั้นเรียน 20 ชั่วโมง ที่เหลือจะเป็นการเรียนด้วยตนเองภายใต้การดูแลจากอาจารย์ ในขณะที่สถาบันภาษาในประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเปิดสอนเพียง 18-20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น

สำหรับระยะเวลาของหลักสูตร จะนับเป็นสัปดาห์ ส่วนใหญ่จะจัดเป็นช่วง ช่วงละ 4-5 สัปดาห์ หรือ ช่วงละ 10 สัปดาห์ หากนักศึกษามีพัฒนาการทางด้านภาษาได้รวดเร็ว ก็สามารถเลื่อนขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นหลังจากสำเร็จการศึกษาในแต่ละช่วงได้ อย่างไรก็ดี ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการเรียนหลักสูตรภาษาทั้งหมดยังขึ้นอยู่กับพื้นฐานของนักศึกษาแต่ละคนด้วย สถาบันภาษาในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีช่วงปิดภาคเรียนประมาณ 2 สัปดาห์ ระหว่างแต่ละช่วงของการเรียน 10 สัปดาห์ แต่สถาบันภาษาของเอกชนจะเปิดสอนตลอดปี และโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีข้อกำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำ ในการรับนักศึกษาต่างชาติ แต่จะจัดให้มีการสอบ Placement Test เพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของนักศึกษาก่อน เพื่อการจัดระดับชั้นเรียนที่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้สถาบันสอนภาษาเกือบทุกแห่งในประเทศออสเตรเลียจะมีบริการต่างๆที่จัดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ เช่น จัดหาที่พัก บริการรับที่สนามบิน แนะแนวศึกษาต่อ บริการสมัครเรียน บริการช่วยหางาน บริการด้านสุขภาพ บริการที่ปรึกษาปัญหาส่วนตัว สำหรับเด็กนักเรียนในระดับมัธยมที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีก็จะมีบริการจัดหาผู้ปกครอง (Guardianship) ด้วย

..........................................................................................................................

ประเภทของหลักสูตรภาษาอังกฤษ

English for Academic Purposes - ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ/เชิงวิชาการ หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมทางด้านภาษาอังกฤษ สำหรับการเข้าศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งมักจัดให้มีวิชาเลือกเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบ IELTS หรือ TOEFL ไว้ด้วย

General English - ภาษาอังกฤษทั่วไป เป็นหลักสูตรที่เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันทั้ง 4 ทักษะ คือ อ่าน พูด ฟัง เขียน โดยเน้นให้มีการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน เป็นการเพิ่มพูนทักษะทางภาษา เพื่อใช้ในการทำงานหรือเพื่อการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยอาจมีวิชาเลือกตามความสนใจเฉพาะ อาทิเช่น การฝึกอ่านออกเสียง การสนทนา ออสเตรเลียศึกษา การเรียนภาษาด้วยดนตรี และการละคร เป็นต้น

English for Specific Purposes - ภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษที่เหมาะสมสำหรับในบางสาขาอาชีพหรือในลักษณะงานบางประเภท ที่มีการสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษเฉพาะด้าน อาทิเช่น ภาษาอังกฤษเพื่ออินเตอร์เน็ต ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การบิน การท่องเที่ยว ศิลปะและการออกแบบ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และเพื่อการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

Academic Orientation Program - ปฐมนิเทศเชิงวิชาการ เป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมด้านวิชาการและทักษะการเรียนในมหาวิทยาลัย ให้กับนักศึกษาที่กำลังจะเข้าเริ่มการเรียนในภาคการศึกษาต่อไป มักจัดขึ้นเป็นระยะสั้นๆ ประมาณ 4-5 สัปดาห์ ก่อนการเปิดภาคการศึกษาของมหาวิทยาลัยนั้นๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการเรียนการสอน ก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย

Direct Entry English Program - (DEEP) - หลักสูตรการเข้าศึกษาต่อโดยตรง เป็นการไปเรียนภาษาอังกฤษก่อนแล้วต่อด้วยหลักสูตรทางด้านวิชาการกับสถาบันการศึกษาที่ต้องการ ซึ่งจะพิจารณาจากพื้นฐานภาษาอังกฤษของนักศึกษา เช่น ผลสอบ IELTS หรือผลสอบ placement test และเมื่อศึกษาสำเร็จหลักสูตรต่อโดยตรงนี้แล้ว และมีผลการเรียนตรงตามที่กำหนดไว้ นักศึกษาสามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรทางด้านวิชาการที่สมัครไว้ก่อนแล้วได้ทันที โดยอาจไม่ต้องสอบ IELTS อีก

English for Business - เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในเชิงธุรกิจ

English Test Preparation Program - ภาษาอังกฤษเพื่อการเตรียมตัวสอบข้อสอบภาษาอังกฤษเพื่อเข้าศึกษาต่อ ซึ่งจะมี 2 ประเภทคือ IELTS (International English Language Testing System) และ TOEFL (Test of English as a Foreign Language) โดยเนื้อหาของแต่ละหลักสูตร จะมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อม และสอนให้รู้จักแนวข้อสอบพร้อมการฝึกทักษะการทำข้อสอบของ IELTS และ TOEFL

English for High School Preparation - ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อระดับมัธยม เป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียนที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนระดับมัธยมของประเทศออสเตรเลีย โดยหลักสูตรจะเน้นพัฒนาการทางภาษาและทักษะที่ต้องใช้สำหรับการเรียนในโรงเรียนมัธยม โดยเนื้อหาจะผสมผสานกันระหว่างเนื้อหาทางวิชาการในระดับมัธยมและการฝึกภาษาอังกฤษ

English and Recreation - ภาษาอังกฤษและสันทนาการ และ Study Tour/Holiday English-ภาษาอังกฤษและท่องเที่ยว ทัศนศึกษา เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มีความยืดหยุ่นมาก โดยถือเป็นการเดินทางเพื่อเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนด้วย ผู้ที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและเรียนในหลักสูตรภาษาได้ยาวนานถึง 3 เดือน หลักสูตรภาษาอังกฤษในแบบที่เรียกกันว่า Study Tour หรือหลักสูตรภาษาอังกฤษและสันทนาการนี้ จึงเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยมักจัดเป็นหลักสูตรสั้นๆ ประมาณ 2-6 สัปดาห์ เนื้อหาของหลักสูตรจะเป็นการผสมผสานการเรียนในช่วงเช้า และกิจกรรมในช่วงบ่าย ที่ให้ความยืดหยุ่นในการเรียนอย่างมาก มีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ที่บรรจุหลักสูตรภาษาอังกฤษเข้าไว้กับหลักสูตรด้านกีฬาโดยเฉพาะ หรือกิจกรรมสันทนาการ เช่น กีฬาดำน้ำ ตีกอล์ฟ ล่องเรือ ขี่ม้า หรือแม้แต่การชิมเหล้าไวน์ เป็นต้น

Teaching English as a Second Language Program - หลักสูตรประเภทนี้มีจุดมุ่งหมายในการอบรมฝึกฝนผู้ที่ต้องการออกไปประกอบอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ โดยผู้เรียนต้องสอบรับประกาศนียบัตรด้วย ประกาศนียบัตรการสอนภาษาอังกฤษที่เป็นที่ยอมรับของสากล คือ RSA/Cambridge Certificate in TEFLA, RSA/Cambridge Diploma in TEFLA และ RSA/Cambridge Examination in English for Language Teachers

English and Work Experience/Internship - ภาษาอังกฤษและการฝึกงานเป็นหลักสูตรที่กำหนดให้นักศึกษาเริ่มต้นด้วยการเรียนในหลักสูตรภาษาอังกฤษก่อน (ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ ซึ่งนักศึกษาควรมีความสามารถทางด้านภาษาอยู่ในระดับกลางแล้ว) จากนั้นก็จะให้นักศึกษาเข้าฝึกงานกับหน่วยงานหรือองค์กร ทั้งของรัฐบาลและเอกชน เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์การทำงานจริง ระหว่างช่วงฝึกงานของนักศึกษาในลักษณะนี้ อาจจะไม่ได้รับค่าจ้างระหว่างการฝึกงาน

.........................................................................................................................

3. หลักสูตรเตรียมพื้นฐานก่อนเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา
(Foundation Studies)


นักศึกษาต่างชาติที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไข สามารถเข้าศึกษาในหลักสูตรนี้เพื่อเป็นการปูพื้นฐานสำหรับการเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย เนื้อหาวิชาเรียนส่วนใหญ่ จะนำมาจากหลักสูตร Year 11-12 ผสมกับวิชาพื้นฐานในสาขาที่ต้องการจะเข้าศึกษาต่อ และมักจัดแบ่งออกเป็นหลักสูตรในสายวิทยาศาสตร์ หรือสายศิลป์ หลักสูตรประเภทนี้ มีการเปิดสอนในสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมสายอาชีพและมหาวิทยาลัยต่างๆ หลายแห่ง เมื่อศึกษาสำเร็จ นักศึกษาต่างชาติจะมีคุณวุฒิเพียงพอต่อการยื่นใบสมัครเพื่อพิจารณาเรียนต่อหลักสูตรปริญญาตรี

.........................................................................................................................

4. หลักสูตรระดับการฝึกอบรมสายอาชีพ
(Vocational Education and Training)


หลักสูตรที่เปิดสอนส่วนใหญ่ จะให้ความสำคัญกับภาคปฏิบัติมากกว่าหลักสูตรที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัย ซึ่งเน้น ทฤษฎี โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ วิทยาลัยเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่องของรัฐบาล-Technical And Further Education (TAFE) และวิทยาลัยเอกชน (Private College) หลักสูตรที่เปิดสอนจะเกี่ยวกับการฝึกอบรมสายอาชีพต่างๆ อาทิเช่น ทางด้านการโรงแรม เลขานุการ ธุรกิจ และคอมพิวเตอร์

วุฒิการศึกษาของระดับอาชีวศึกษาและฝึกอบรม แบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ดังนี้

ประกาศนียบัตร 1-4 (Certificates I-IV) : เป็นหลักสูตรระดับขั้นพื้นฐาน ซึ่งเน้นความรู้และทักษะในเชิงปฏิบัติการและพื้นฐานอาชีพ ระยะเวลาของหลักสูตร มีตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ จนถึง 1 ปี

อนุปริญญา (Diploma) : ระยะเวลาของหลักสูตรคือ 1-2 ปี และส่วนใหญ่สามารถโอนหน่วยกิตเพื่อการเข้าศึกษาต่อหลักสูตรระดับปริญญาตรีได้ โดยอาจได้รับการยกเว้นหน่วยกิตการเรียนสูงสุดถึง 1 ปี

อนุปริญญาชั้นสูง (Advanced Diploma) : เป็นหลักสูตรที่ใกล้เคียงกับหลักสูตรในระดับอนุปริญญา แต่สูงกว่า ระยะเวลาของหลักสูตรคือ 2-3 ปี

นอกจากนี้ยังมีสถาบันจำนวนมากที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยในการเปิดสอนหลักสูตรในระดับปริญญาตรี (หรือส่วนหนึ่งของหลักสูตร) และ Postgraduate Certificate ด้วย
.........................................................................................................................

5. หลักสูตรระดับอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัย)

ปัจจุบันประเทศออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัยรวมทั้งสิ้น 41 แห่ง ทุกแห่งได้รับการรับรองจากรัฐบาล เป็นของรัฐบาล 38 แห่ง และเป็นของเอกชน 3 แห่ง

วุฒิการศึกษาในระดับอุดมศึกษา สามารถจัดแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ได้ดังนี้

ปริญญาตรี (Bachelor Degree) : ระยะเวลาของหลักสูตรคือ 3-6 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา นักศึกษาไทยที่ศึกษาสำเร็จระดับมัธยม 6 จากประเทศไทย อาจมีคุณสมบัติไม่เพียงพอต่อการสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อโดยตรง และจะต้องเข้าศึกษาในหลักสูตร Year 12, Foundation หรือ Diploma ก่อนจะเข้าต่อระดับปริญญาตรี

ปริญญาตรีเกียรตินิยม (Bachelor Degree with Honours) : โดยทั่วไปคือการศึกษาเพิ่มเติมอีก 1 ปี หลังจากสำเร็จปริญญาตรี เนื้อหาของหลักสูตร จะมีทั้งภาคบรรยายและการทำวิทยานิพนธ์ สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรนี้และมีผลการเรียนในระดับดีมากและได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จะได้รับการรับรองวุฒิให้เทียบเท่าปริญญาโท และสามารถสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรระดับปริญญาเอกได้ทันที โดยไม่ต้องศึกษาหลักสูตรระดับปริญญาโทเพิ่มเติม

ประกาศนียบัตรบัณฑิต (Graduate Certificate) : ระยะเวลาหลักสูตรคือ 6 เดือน เป็นหลักสูตรที่มุ่งเสริมความรู้และทักษะเฉพาะด้าน หรืออาจใช้เป็นตัวประเมินผลสำหรับผู้ที่คุณสมบัติยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้สำหรับการเข้าศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาโทโดยตรง

อนุปริญญาโท (Graduate Diploma) : ระยะเวลาหลักสูตรคือ 6-12 เดือน เป็นหลักสูตรที่มุ่งเสริมความรู้และทักษะเฉพาะด้านเช่นเดียวกับประกาศนียบัตรบัณฑิต นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งที่ได้กำหนดให้การศึกษาในระดับนี้ เป็นการศึกษาในปีแรกของหลักสูตรระดับปริญญาโท และหากนักศึกษามีผลการเรียนที่ดีก็สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทได้เลย โดยใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติมอีก 6-12 เดือน

ปริญญาโท (Masters Degree) : มีทั้งรูปแบบการทำวิจัย การเข้าชั้นเรียน หรือทั้ง 2 อย่าง โดยมีระยะเวลาของหลักสูตรอยู่ในช่วงตั้งแต่ 1 ถึง 2 ปี

ปริญญาเอก (Doctoral Degree) : หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Ph.D ระยะเวลาของหลักสูตรไม่แน่นอน แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วง 3-5 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรที่เน้นในด้านการทำวิจัยเท่านั้น แต่ก็มีหลายมหาวิทยาลัยที่เพิ่มเติมการเรียนการสอนในส่วนของการเข้าชั้นเรียนเข้าเป็นส่วนเริ่มต้นของหลักสูตร แล้วจึงทำวิทยานิพนธ์ต่อในช่วงหลัง นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยอีกจำนวนมากที่เปิดสอนหลักสูตร DBA ซึ่งเป็นการศึกษาในระดับปริญญาเอกทางด้านบริหารธุรกิจโดยเฉพาะ และส่วนใหญ่แล้วจะรับนักศึกษาที่ศึกษาสำเร็จหลักสูตร MBA และมีประสบการณ์การทำงาน
..........................................................................................................................

6. การศึกษาระบบทางไกล (Distance Education)

การรับรองคุณภาพการศึกษาโดยรัฐบาลจะครอบคลุมเฉพาะนักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในประเทศออสเตรเลีย และลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น โดยทั่วไปรูปแบบของหลักสูตรประเภทนี้จะเป็นการศึกษาโดยผ่านทาง internet ในรูปแบบของ chat room, virtual classroom หรือการเข้าไปศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง และทำรายงานส่งตามเวลาที่กำหนดไว้ ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนที่เปิดสอนหลักสูตรระบบทางไกล โดยมีคุณวุฒิ รูปแบบการเรียนการสอน และการประเมินผลที่แตกต่างกันไป สำหรับในประเทศไทย สำนักงาน ก.พ. ยังไม่รับรองวิทยฐานะของรูปแบบการเรียนในระบบทางไกลของสถาบันใดๆ ในประเทศออสเตรเลียทั้งสิ้น
..........................................................................................................................

ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายสำหรับการไปศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลีย แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของเมือง สถาบันการศึกษา ประเภทของหลักสูตร และระยะเวลาของหลักสูตร โดยสามารถสรุปพอเป็นสังเขปได้ดังนี้


.........................................................................................................................

No comments:

Post a Comment