December 26, 2009

ระบบการศึกษาในนิวซีแลนด์


ประเทศนิวซีแลนด์เป็นแหล่งการศึกษาที่มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับแนวหน้าประเทศหนึ่งของโลก และใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน แม่แบบระบบการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์คือระบบการศึกษาแบบอังกฤษ เพราะเหตุนี้จึงมีนักศึกษาต่างชาติเดินทางไปศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์เป็นจำนวนมาก และด้วยที่ตั้งมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนการสอน กระตุ้นให้นักศึกษารู้จักคิด มีเหตุมีผล รับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม ทำให้นักเรียนสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเรียนในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยค่อนข้างง่าย และอีกปัจจัยหลักนั้น คือประเทศนิวซีแลนด์เป็นเมืองที่ สงบ ปลอดภัย ธรรมชาติสวยงาม ผู้คนเป็นมิตร นอกจากนี้แล้ว ค่าครองชีพของนิวซีแลนด์อยู่ในระดับราคาที่ไม่แพง อีกทั้งชาวนิวซีแลนด์ยังยินดีต้อนรับนักศึกษาจากต่างชาติ และเปิดรับนักเรียนนักศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา ประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก รวมถึงหลักสูตรภาษาอังกฤษ

.............................................................................................................................

ระดับมัธยมศึกษา

มีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในนิวซีแลนด์ประมาณ 400 แห่ง ทั้งโรงเรียนของรัฐบาล กึ่งรัฐบาลและเอกชน โรงเรียนแต่ละแห่ง สามารถจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเอง แต่ต้องได้รับการรับรองคุณภาพจาก New Zealand Qualification Authority (NZQA) หลักสูตรและมาตรฐานการศึกษาจึงคล้ายคลึงกัน และมีจุดประสงค์เดียวกันคือ เตรียมความพร้อมให้นักเรียน เพื่อสอบให้ได้ประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาที่รัฐบาลกำหนด นักเรียนทุกคนเมื่อจบระดับฟอร์ม 5 (ม. 5) จะต้องสอบไล่ข้อสอบกลางของประเทศเพื่อรับประกาศนียบัตร เรียกว่า School Certificate และเมื่อเรียนจบฟอร์ม 6 (ม. 6) ต้องสอบข้อสอบที่โรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเพื่อรับ Sixth Form Certificate ดังนั้นการเลือกโรงเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โรงเรียนมัธยมส่วนใหญ่จะรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนในฟอร์ม 3 (ม.3 อายุ 13 ปี) บางโรงเรียนรับตั้งแต่ฟอร์ม 1 (ม.1) นักเรียนระดับฟอร์ม 3-4 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนจะเรียนวิชาบังคับพื้นฐาน อาทิ ภาษาอังกฤษ สังคม- ศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษา พลศึกษา ดนตรี ศิลปะ ส่วนวิชาเลือกอาจจะมี คหกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ

นักเรียนระดับฟอร์ม5-6 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะมีวิชาเลือกตามความถนัดมากขึ้น และมีวิชาบังคับน้อยลง วิชาบังคับคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เมื่อจบฟอร์ม 5 นักเรียนต้องสอบ School Certificate Examination ซึ่งจัดสอบโดยกระทรวงศึกษาธิการและสอบ Sixth Form Certificate ซึ่งโรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเมื่อจบฟอร์ม 6

นักเรียนระดับฟอร์ม 7 เป็นนักเรียนปีสุดท้ายในระดับโรงเรียนมัธยม นักเรียนจะต้องสอบ Bursary and Scholarship Examinations เพื่อใช้ผลคะแนนสอบในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนต่างชาติก็สามารถเข้าสอบได้ นักเรียนในฟอร์ม 5-6-7 ควรเลือกวิชาที่จะเป็นพื้นฐานของ การเรียนในระดับปริญญาตรีที่ตนสนใจ เช่น สนใจเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สถิติ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ส่วนนักเรียนที่จะเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ควรเลือก เรียนวิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น

ข้อควรระวัง

นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ต้องปฏิบัติตนตามกฎข้อบังคับของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด และต้องไม่ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผล เพราะโรงเรียนมีสิทธิ์ส่งตัวนักเรียนกลับประเทศไทยทันที

การเทียบวุฒิ

สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีความประสงค์ต้องการกลับมาเทียบวุฒิ กับกระทรวงศึกษาธิการในประเทศไทย ต้องมีผลการเรียนนิวซีแลนด์ฟอร์ม 4 ฟอร์ม 5 และฟอร์ม 6 หรือเทียบเท่า และต้องสอบผ่านครบทั้ง 5 วิชา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการนิวซีแลนด์กำหนดไว้ และจะต้องมีใบประกาศนียบัตรของ NZQA มาแสดง

การสมัครเรียน

ภาคการศึกษา ภาคเรียนแบ่งเป็น 4 เทอม คือ ระหว่างเทอมจะปิดให้นักเรียน พัก 2 สัปดาห์ โรงเรียน
มัธยมถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วันต่อปีการศึกษา
เทอม 1: กุมภาพันธ์ - เมษายน
เทอม 2: เมษายน - มิถุนายน
เทอม 3: กรกฎาคม - กันยายน
เทอม 4: 9 ตุลาคม - 8 ธันวาคม

นักเรียนสมัครเข้าเรียนต่อจากชั้นสูงสุดที่จบจากประเทศไทยได้เลย และสามารถสมัครเข้าเรียนได้ทุกเทอม โดยนักเรียนที่ต้องการเลื่อนชั้นต้องเข้าเรียนในช่วงเทอม 1 (ปลายมกราคม) หรือต้นเทอม 2 ทางโรงเรียนจะพิจารณารับนักเรียนเข้าเรียนจากผลการเรียน อายุ และพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ แต่การรับนักเรียนขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจของแต่ละโรงเรียนด้วย

ตารางเปรียบเทียบระบบการศึกษาระหว่างประเทศไทย และ นิวซีแลนด์


.............................................................................................................................

โพลีเทคนิคและสถาบันเทคโนโลยี (Polytechnics and Institute of Technology)

คือสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเปิด ให้การศึกษาอบรมสายวิชาชีพ เน้นด้านอุตสาหกรรมธุรกิจและการพาณิชย์ มีสาขาวิชาให้เลือกมากถึง 150 สาขา มีหลักสูตร ตั้งแต่ประกาศนียบัตร อนุปริญญา จนถึงปริญญาตรี และสามารถ โอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยได้ โพลีเทคนิคทั้งหมดมี 25 แห่ง กระจายอยู่ 18 แห่งในเกาะเหนือ และ 7 แห่งในเกาะใต้ นอกจากนี้โพลีเทคนิคยังมีการ อบรมหลักสูตรสั้นๆ (Short Courses) และหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษอีกด้วย

คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย

• อายุ 18 ปีขึ้นไป
• สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 GPA 2-2.5
• สอบ TOEFL ได้คะแนนอย่างต่ำ 500 หรือ IELTS 5.0

ภาคการศึกษา

เปิดสอนเดือนกุมภาพันธ์-ธันวาคม โดยมีวันหยุดในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม ส่วนใหญ่เปิดรับนักศึกษาใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนกรกฎาคม

.............................................................................................................................

มหาวิทยาลัย (University)

มหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์มีด้วยกันทั้งหมด 8 มหาวิทยาลัย และเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลทั้งหมด โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีระบบตรวจสอบคุณภาพของตนเอง และได้รับการตรวจสอบจากส่วนกลาง ในส่วนของหลักสูตรและนโยบายของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเหล่านี้กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

โดยอยู่ที่เกาะเหนือ 5 มหาวิทยาลัย อันได้แก่

• University of Auckland อยู่ที่เมือง Auckland
• Massey University อยู่ที่เมือง Palmerston North
• Victoria University of Wellington อยู่ที่เมือง Wellington
• University of Waikato อยู่ที่เมือง Hamilton
• Auckland University of Technology อยู่ที่เมือง Auckland เดิมชื่อ AIT (Auckland Institute of Technology) ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยในปี 2000

เกาะใต้มี 3 มหาวิทยาลัย คือ

• University of Canterbury อยู่ที่เมือง Christchurch
• Lincoln University อยู่ที่เมือง Christchurch
• University of Otago อยู่ที่เมือง Dunedin

มหาวิทยาลัยเหล่านี้ มีหลักสูตรตั้งแต่ ระดับปริญญาตรี ถึงปริญญาเอก บางมหาวิทยาลัยมีหลักสูตร
ประกาศนียบัตร และอนุปริญญา รวมทั้งหลักสูตรเกียรตินิยม และหลักสูตร 2 ปริญญาบัตรด้วย

คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย

ระดับปริญญาตรี

• นักศึกษาจบชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรอง จากทางมหาวิทยาลัยของประเทศไทย
สามารถสมัครเข้าเรียน ต่อในระดับปริญญาตรี
• แต่ถ้านักศึกษามีวุฒิจบชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 จะต้องเข้าเรียนหลักสูตร Foundation Studies Programme ก่อน หรือมิฉะนั้นก็เข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมศึกษา ใน Form 7 หรือเลือกเรียนหลักสูตรอนุปริญญาในวิทยาลัยอาชีวศึกษา 2 ปี
• เกรดเฉลี่ยม่ต่ำกว่า2.5 แล้วจึงจะสามารถสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้
• คะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL อย่างต่ำ 550 หรือ IELTS 5.5

ระดับปริญญาโท/เอก

• สำเร็จการศึกษาระดีบปริญญาตรี/โท
• คะแนน TOEFL 600 หรือ IELTS 6.0-6.5
• บางสาขาวิชาจะต้องมีประสบการณ์การทำงานด้วย
• เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5 – 3.0

ภาคการศึกษา

• ระบบเทอมมี 3 เทอม มีนาคม - พฤษภาคม มิถุนายน - สิงหาคม กันยายน - พฤศจิกายน
• ระบบภาคเรียน (Semester) มี 2 ภาค คือ มีนาคม - มิถุนายน กรกฎาคม - พฤศจิกายน

วันหยุดภาคฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงปลาย เดือนกุมภาพันธ์ และมีวันหยุด
ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในระหว่างเทอม หรือ ระหว่างภาค โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาใหม่
ช่วงต้นปีการศึกษาในเดือนมีนาคม มีบางมหาวิทยาลัยที่เปิดรับนักศึกษาใหม่กลางปีคือ ในเดือนกรกฎาคม
แต่รับเฉพาะบางสาขาเท่านั้น

.............................................................................................................................

สถาบันสอนภาษา (English Language Institutions)

มี สถาบันสอนภาษาอังกฤษทั้งของเอกชนภายใต้การดูแลของ NZQA (New Zealand Qualification Authority) กว่า 80 แห่ง และขึ้นตรงต่อมหาวิทยาลัยหรือโพลีเทคนิคอีกกว่า 27 แห่ง เปิดสอนหลักสูตรทั้งระยะสั้น (ต่ำกว่า 12 สัปดาห์) และระยะยาวคือ 1 ปี ใช้วิธีการสอนที่ทันสมัย เปิดรับนักศึกษาใหม่ตลอดทั้งปี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาในทุกรูปแบบ

.............................................................................................................................

ค่าใช่จ่ายในการศึกษา

No comments:

Post a Comment